แนวปฏิบัติของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
เรื่อง การปฏิบัติตนของผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์
เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ในสังกัดสมาชิกสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติเป็นไปตามกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ โดยให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติงานและป้องกันพฤติกรรมที่หมิ่นเหม่ต่อการละเมิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์
สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้จัดประชุมระดมความคิดเห็นจากผู้ปฏิบัติงานข่าวและบรรณาธิการจำนวนหนึ่ง จึงมีมติให้กำหนดแนวปฏิบัติของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เรื่องการปฏิบัติตนของผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ดังต่อไปนี้
๑) ขอบเขตการรับจ้างเขียนข่าว หรือบทความ
(๑) ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ไม่ควรรับจ้างหน่วยงานด้านประชาสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นของรัฐหรือเอกชน เพื่อเขียนข่าว หรือบทความที่มีลักษณะเป็นการประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาชวนเชื่อหน่วยงานหรือหัวหน้าหน่วยงานในสายงานที่ผู้ประกอบวิชาชีพรับผิดชอบ หรือสายงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
(๒) ในการรับค่าตอบแทนในการเขียนเรื่องหรือบทความอื่นใด นอกเหนือจากการเขียนข่าวหรือบทความตาม (๑) ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ควรได้รับอย่างสมเหตุผลกับงานเขียนที่ได้รับการว่าจ้าง
การรับจ้างเขียนเรื่องให้กับนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง หรือนักธุรกิจ ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ควรเปิดเผยชื่อของตนในฐานะผู้เขียนเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่องานเขียนนั้น
๒) การรับตำแหน่งเป็นกรรมการและที่ปรึกษา
(๑) ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ไม่ควรเป็นที่ปรึกษาของนักการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการระดับสูง หรือนักธุรกิจ โดยมีค่าตอบแทนเป็นตัวเงินหรือผลประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการหรือไม่ก็ตาม
(๒) ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ไม่ควรเป็นกรรมการใดๆที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างในหน่วยงานของรัฐตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงระดับชาติ
(๓) ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ไม่ควรเป็นกรรมการหรือที่ปรึกษาในหน่วยงานทั้งของรัฐและเอกชนที่อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับสายงานข่าวที่ตนรับผิดชอบ
๓) การมีส่วนได้เสียในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์และอื่น ๆ
(๑) ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ไม่ควรเป็นกรรมการหรือมีหุ้นในสัดส่วนหรือจำนวน ซึ่งมีนัยสำคัญในบริษัทที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์ ที่มีส่วนได้เสียหรือมีผลต่อการปฏิบัติหน้าที่
(๒) ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ไม่ควรเป็นกรรมการหรือรับผลประโยชน์ในบริษัทหรือธุรกิจอื่นใด ซึ่งมีส่วนได้เสียในผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม หรือมีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ และไม่ควรเกี่ยวข้องกับกิจการที่อาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียทางศีลธรรมหรือวัฒนธรรมอันดีงามของไทย ไม่ว่าจะในฐานะเจ้าของ กรรมการหรือที่ปรึกษา
จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน
สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙