องค์กรสื่อออกแถลงการณ์ร่วม วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก 2566
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกแถลงการณ์ร่วม เนื่องในวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก 2566 ‘เสรีภาพในการแสดงออก คือบ่อเกิดสิทธิทั้งปวง’ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566
แถลงการณ์ร่วม วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก 2566
‘เสรีภาพในการแสดงออก คือบ่อเกิดสิทธิทั้งปวง’
โดย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
และ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประกาศให้วันที่ 3 พฤษภาคมของทุกปี เป็น “วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก” เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนในสังคมตระหนักถึงความสำคัญของเสรีภาพสื่อมวลชน
ปีนี้ ยูเนสโก้ได้กำหนดหัวข้อการรณรงค์ไว้ว่า “Freedom of expression as a driver for all other human rights” หรือแปลเป็นภาษาไทยได้ใจความว่า “เสรีภาพในการแสดงออก คือบ่อเกิดแห่งสิทธิมนุษยชนทั้งปวง” หมายความว่า เสรีภาพในการแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นสื่อหรือประชาชน ล้วนเป็นสิทธิพื้นฐานที่สมควรได้รับการปกป้องคุ้มครอง สอดคล้องกับหลักการ “เสรีภาพสื่อคือเสรีภาพประชาชน” ที่องค์กรวิชาชีพสื่อได้ยึดเป็นหลักปฏิบัติมาโดยตลอดเช่นกัน
เนื่องจาก “วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก” ประจำปี 2566 อยู่ในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั่วไปของประเทศไทย ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม องค์กรวิชาชีพสื่อตามรายนามในแถลงการณ์ จึงขอใช้โอกาสนี้ เรียกร้องไปยังพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะเข้าทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรในอนาคตอันใกล้นี้ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน จึงขอเรียกร้องดังต่อไปนี้:
1. คุ้มครองและพิทักษ์ไว้ซึ่งเสรีภาพการแสดงออกในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสรีภาพสื่อ เสรีภาพการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการชุมนุมหรือแสดงออกทางการเมืองที่สงบ สันติ และปราศจากอาวุธ อันเป็นสิทธิที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
2. ปฏิรูปการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพในการแสดงออก เพื่อไม่ให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือลิดรอนเสรีภาพของสื่อมวลชนและประชาชน และแก้ไขปัญหาการใช้กฎหมายปิดปากสื่อและประชาชน หรือที่เรียกว่า SLAPP (สแลป)
3. สร้างกลไกตรวจสอบ และเอาผิดผู้ที่คุกคามสื่อหรือใช้ความรุนแรงต่อคนทำงานสื่อได้อย่างแท้จริง เพื่อขจัดวัฒนธรรมการพ้นผิดลอยนวล (culture of impunity)
4. ไม่นำเอา “ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน” ฉบับที่ตกไปแล้วในรัฐสภาชุดก่อน ขึ้นมาพิจารณาอีกในอนาคต
5. สนับสนุนกลไกการกำกับดูแลกันเองในวงการสื่อมวลชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นอิสระ เพื่อยกระดับมาตรฐานวิชาชีพ และส่งเสริมจริยธรรมสื่อควบคู่ไปกับเสรีภาพสื่อพร้อมๆกัน
ท้ายสุดนี้ เราขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆ สื่อมวลชนทุกแขนง ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีจริยธรรมและคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชน ร่วมต่อสู้เพื่อส่งเสริมเสรีภาพ และคัดค้านการลิดรอนเสรีภาพ ไม่ว่าผู้กระทำจะเป็นใครหรือฝ่ายใดก็ตาม
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
2 พฤษภาคม 2566