สภาการสื่อมวลชนฯ เห็นชอบรับหนังสือพิมพ์เครือมติชน และข่าวหุ้นกลับมาเป็นสมาชิกอีกครั้งเพื่อความเข้มแข็งในการกำกับดูแลกันเองด้านจริยธรรมและส่งเสริมเสรีภาพของสื่อมวลชน พร้อมเห็นชอบผลการศึกษาแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลกันเองของสื่อมวลชน โดยมีข้อเสนอแนะไปยังองค์กรวิชาชีพที่เกี่ยวข้องและภาคส่วนอื่นๆ ด้วย
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 นางสาวนิภาวรรณ แก้วรากมุกข์ เลขาธิการสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 ว่า ที่ประชุมเห็นชอบผลการศึกษาแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลกันเองของสื่อมวลชน โดยคณะทำงานฯ ได้ศึกษาและรวบรวมข้อมูลการกำกับดูแลกันเองของสื่อมวลชนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมการกำกับดูแลกันเองทางด้านจริยธรรมของสื่อมวลชนไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ได้ประมวลสภาพปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการกำกับดูแลกันเองของสื่อมวลชนไทย โดยสรุปปัญหาสำคัญได้ 6 ประเด็น ดังนี้ ปัญหาภาพรวม ได้แก่ การพัฒนากลไกกำกับดูแลร่วม ปัญหาด้านจริยธรรม ได้แก่ ผู้ปฏิบัติงานข่าวไม่ทราบกรอบจริยธรรม ประชาชนและสังคมก็ไม่ทราบ กรอบจริยธรรมที่มีอยู่อาจยังไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ปัญหาด้านการตรวจสอบ ได้แก่ ผู้ที่ได้รับผลกระทบไม่ทราบว่าจะไปร้องเรียนที่ไหนอย่างไร และไม่ทราบกระบวนการ จึงคิดว่าองค์กรวิชาชีพไม่ได้ทำอะไร ปัญหาอำนาจการกำกับดูแล ได้แก่ ไม่มีอำนาจในการกำกับผู้ที่ไม่ใช่สมาชิก และสมาชิกที่สังกัดองค์กรวิชาชีพมีน้อย ปัญหาด้านธุรกิจ ได้แก่ เจ้าของสื่อไม่ค่อยเข้าใจ ให้ความสนใจเรื่องเรตติ้งหรือโฆษณาเป็นหลัก การแข่งขันสูง องค์กรที่ไม่ถูกกำกับนำเสนอเนื้อหาหมิ่นเหม่ต่อจริยธรรมแต่มียอดผู้ชมสูง โดยไม่ถูกตรวจสอบและลงโทษอย่างเท่าเทียม และข้อกังวลเกี่ยวกับกฎหมาย ได้แก่ กลัวมีคนของรัฐมาแทรกแซง กลัวเงินของรัฐมาทำให้มีผลต่อการทำงาน และกลัวกลั่นแกล้งกันเอง โดยผลการศึกษานี้นอกจากมีข้อเสนอแนะต่อสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติแล้ว ยังมีข้อเสนอแนะต่อองค์กรวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง และต่อภาคส่วนอื่นๆ ด้วย
เลขาธิการสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีมติรับหนังสือพิมพ์ในเครือมติชน และหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นกลับเข้ามาเป็นสมาชิกสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติอีกครั้งเพื่อให้กระบวนการกำกับดูแลกันเองด้วยจริยธรรมและการรักษาไว้ซึ่งสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนไทยมีความเข้มแข็งมากขึ้น รวมถึงการพัฒนากิจการหนังสือพิมพ์ในยุคที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์สื่ออย่างรวดเร็วอีกด้วย
เลขาธิการสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมรับทราบผลการหารือของ 3 สภาวิชาชีพ ประกอบด้วย สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสภาวิชาชีพกิจการการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย) พร้อมองค์กรสมาชิก กับคณะอนุกรรมการด้านเนื้อหารายการ การส่งเสริมการดูแลกำกับกันเองและการพัฒนาองค์กรวิชาชีพในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 และความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนักข่าวรับเงินจากแหล่งข่าวที่มีความคืบหน้าไปพอสมควร.