พระอาทิตย์ไม่ต้องขึ้นทางตะวันตก : กระดานความคิดโดย’จอกอ’

พระอาทิตย์

พระอาทิตย์ไม่ต้องขึ้นทางตะวันตก

พระอาทิตย์ไม่ต้องขึ้นทางตะวันตก : กระดานความคิดโดย’จอกอ’จักร์กฤษ เพิ่มพูล

              ไม่มีเหตุผลที่ พระอาทิตย์จะต้องขึ้นทางทิศตะวันตก หรือต้นมะขามท้องสนามหลวงมีกี่ต้น เช่นเดียวกับที่ “สยามรัฐ” เคยพาดหัวข่าว ประชดประเทียดอำนาจเผด็จการยุคจอมพล ป. พิบูลสงคราม แต่ต้องพูดตรงไปตรงมาว่า ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 97 (คสช. 97) ที่ขีดเส้นใต้ด้วยสีแดงว่า ห้ามแตะ คสช.คือประกาศที่ไม่ชอบด้วยเหตุผล และเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจตามอำเภอใจ ในการปิดกั้นข้อมูล ข่าวสาร หรือบีบช่องทาง ให้รับเฉพาะสารจาก คสช.เท่านั้น ซึ่งในบริบทของเทคโนโลยีการสื่อสารยุคใหม่ ไม่มีทางเป็นไปได้เลย

อันใดคือสิ่งที่เรียกว่าวิพากษ์ วิจารณ์ คสช. การเขียนถึง คสช.ในแง่มุมใด ถึงจะไม่ใช่การวิพากษ์ วิจารณ์ นอกเหนือจากการทำหน้าที่ถ่ายทอดถ้อยคำประกาศ รายการต่างๆ ที่ คสช.จัดให้ แปลว่า แม้จะไม่ได้กล่าวถึง คสช.สักคำ แต่อ่านแล้ว ดูแล้ว เข้าใจว่า วิพากษ์ คสช.เช่นนี้ ก็จะเข้าข่าย วิพากษ์ คสช.ที่จะเป็นความผิดกระนั้นหรือ

หนังสือพิมพ์ “เสียงอ่างทอง” ต้นกระแสธาร “ไทยรัฐ” ของ กำพล วัชรพล ตีพิมพ์ภาพยายแก่คนหนึ่ง อาศัยในเรือในคลองเปรมประชากร ใกล้ๆ บ้านจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีในยุคก่อน 14 ตุลา บรรยายใต้ภาพว่า “แก่ลงไปก็เป็นเช่นนี้แหละ จะเทียบอะไรกับผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่” ข้อความนี้ โดนข้อหา กล่าวร้าย เสียดสี หรือเหยียดหยามประเทศชาติ เสียงอ่างทอง ถูกปิด 7 วัน ด้วยอำนาจตามประกาศคณะปฎิวัติฉบับที่ 17

ในเวลาต่อมา นายพลคนหนึ่ง สารภาพว่า เขาก็เห็นว่าบรรยายภาพนี้ ไม่ผิด แต่ผู้มีอำนาจสั่งให้ทำ ก็จำเป็นต้องทำ

กงล้อประวัติศาสตร์นี้จะหมุนกลับมาหรือไม่ ?

ความชอบธรรม ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของผู้มีอำนาจ

คล้ายจะถูกต้อง ชอบธรรม เมื่อ คสช.97 พูดถึงเรื่องการให้ความร่วมมือต่อการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ ความร่วมมือคือไมตรี ที่จะพูดจากันได้ แต่เมื่อพิเคราะห์เนื้อหาแล้ว กลับพบว่าเป็นคำสั่งที่มีสภาพบังคับเสมอกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิการรับรู้ข้อมูล ข่าวสารของประชาชน และเกิดความสับสน ไม่เข้าใจในวิธีการทำงาน และนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชน เพื่อให้เป็นความร่วมมือในความหมายที่ คสช.ต้องการ

ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ในการคืนความสุขให้ประชาชน ไม่ตอกย้ำ หรือสร้างความขัดแย้งให้เพิ่มขึ้นในสังคม

สื่อมวลชนโดยส่วนใหญ่ได้ใช้ความระมัดระวังในการทำงาน ภายใต้กรอบ กติกา ที่ได้ตกลงกันอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม ในการนำเสนอข้อมูล ข่าวสารที่จะสร้างความเข้าใจและยอมรับจากสังคมอย่างยั่งยืนนั้น จำเป็นจะต้องยืนอยู่บนหลักการสำคัญของสื่อมวลชน นั่นคือ การเสนอข่าวที่ต้องยึดถือข้อเท็จจริง ความถูกต้องแม่นยำ และครบถ้วน ซึ่งหากสื่อมวลชนใด กระทำผิดหน้าที่นี้ คสช.ก็ชอบที่จะสั่งการให้มีการดำเนินการ หรือใช้กฎหมายปกติที่มีอยู่จัดการได้

การกำหนดให้บุคคลมีอำนาจอย่างกว้างขวาง ในการลิดรอนสิทธิเสรีภาพการรับรู้ข้อมูลข่าวสารนั้น อาจส่งผลให้บุคคลใช้อำนาจจนเกินสมควรแก่เหตุ เช่น การห้ามวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติงานของ คสช. เจ้าหน้าที่ของ คสช.และบุคคลที่เกี่ยวข้อง แค่ไหน เพียงใด จึงจะถือว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อ คสช.ซึ่งหากมีการใช้อำนาจเกินสมควรแก่เหตุ และไม่มีกระบวนการที่จะตรวจสอบการใช้อำนาจ ผลเสียในการใช้อำนาจน่าจะมีมากกว่า บทเรียนในอดีตก็เคยปรากฏมาแล้ว

ความกลัวทำให้เสื่อม ความกล้าอย่างบ้าบิ่นก็ทำให้เสื่อมเช่นกัน

แต่ผมเชื่อมั่นว่า กำลังพูดถึงสิ่งที่เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดของมนุษย์