คณะสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติเสร็จสิ้นภารกิจเยือนจาการ์ตา – บันดุง ตามคำเชิญของสภาสื่อมวลชนอินโดนีเซีย สองฝ่ายลงนามเอ็มโอยูฉบับใหม่ มุ่งเน้นความร่วมมือด้านการยกระดับมาตรฐานทางวิชาชีพ และจริยธรรม ร่วมผลักดันชาติอาเซียนมีสภาสื่อของตัวเอง เตรียมตั้งคณะทำงานร่วมเดินหน้าทำงานทันที
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2561 นางสาวนาตยา เชษฐโชติรส รองประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติคนที่ 1 และคณะ ประกอบด้วย นางสาวบุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์ ประธานอนุกรรมการฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ สภาการฯ นายเกียรติชัย พงษ์พาณิชย์ ที่ปรึกษา อนุกรรมการฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ สภาการฯ นางสาวผุสดี คีตวรนาฏ อนุกรรมการฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ สภาการฯ นายเกษมสันต์ วีระกุล อนุกรรมการฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ สภาการฯ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย อนุกรรมการฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ สภาการฯ และนางสาวสุมนชยา จึงเจริญศิลป์ อนุกรรมการฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ สภาการฯ ได้ออกเดินทางจากกรุงจาการ์ตา ด้วยสายการบินแอร์ เอเชีย เที่ยวบินที่ QZ 252 กลับสู่กรุงเทพมหานคร หลังเสร็จสิ้นภารกิจการเยือนสาธารณรัฐอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของสภาสื่อมวลชนอินโดนีเซีย (Dewan Pers) ระหว่างวันที่ 12 – 17 สิงหาคม 2561
โดยนางสาวนาตยา กล่าวถึงผลของการเยือนอินโดนีเซียในครั้งนี้ว่า นอกจากจะได้การต้อนรับอย่างอบอุ่นแล้ว ก็ยังมีความคืบหน้าในการเจรจาตกลงลงรายละเอียดความความชัดเจนในบันทึกความเข้าใจร่วม (เอ็มโอยู) ฉบับใหม่ที่ได้ลงนามในครั้งนี้ว่า ทั้งสององค์กรจะร่วมมือกันสนับสนุนให้ประเทศอื่นๆ ที่เหลืออาเซียน ได้มีการจัดตั้งสภาสื่อมวลชนของตัวเอง อีกสิ่งหนึ่งคือยังได้มีโอกาสพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับสื่อมวลชน และองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนในอินโดนีเซีย ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ รวมถึงสื่อออนไลน์ ซึ่งก็น่าแปลกใจ และน่าชื่นชม ที่สื่ออินโดนีเซียยังสามารถยืนหยัดพัฒนาการเติบโตทางธุรกิจอยู่ได้ ท่ามกลางวิกฤติขาลงของสื่อ แม้ว่าในสื่อโทรทัศน์จะยังออกอากาศในระบบอนาล็อคอยู่ แต่เขาพยายามศึกษาบทเรียนการเปลี่ยนผ่านระบบอนาล็อค สู่ดิจิตอลของประเทศไทยว่าเพราะเหตุใดจึงล้มเหลว
“ได้ไปเยี่ยมเยือนเครือคอมปาส พบว่านอกจากธุรกิจสื่อแล้ว ก็ยังมีธุรกิจอื่นๆ อีก อาทิธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมกว่า 80 แห่ง ซึ่งการมาในครั้งนี้ได้ไปดูอาคารที่ทำการแห่งใหม่ซึ่งเพิ่งจะย้ายมาได้ไม่เดือน เป็นอาคารสูง 24 ชั้น ใหญ่โต สวยงามมาก การทำงานของเขา 24 ชั่วโมง เฉพาะในส่วนของโทรทัศน์มีพนักงานกว่า 200 คน ตอนที่ไปถึงก็ 2 ทุ่มแล้ว แต่ทุกคนก็ยังทำงานกันอย่างกระตือรือล้นมากๆ บรรณาธิการแต่ละแผนกยังเป็นคนหนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ทั้งนั้น ถือว่าน่าชื่นชมที่มีการส่งเสริมคนรุ่นใหม่ให้ขึ้นมาอยู่ในระดับบริหาร แม้ว่าก็ยังต้องอาศัยผู้มีประสบการณ์ช่วยดูแลอยู่ด้วยก็ตาม”
รองประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ยังได้กล่าวถึงการเดินทางไปเยือนบันดุง ที่ได้มีการพบปะกับผู้บริหาร Pikiran Rakyat ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในบันดุง และ บันดุงทีวี ซึ่งก็ได้เห็นการส่งเสริมคนรุ่นใหม่มาเป็นผู้บริหารเช่นกัน แม้ไม่ใช่องค์กรขนาดใหญ่ มีพนักงานไม่มาก แต่ก็สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกำไร มีความร่วมมือใกล้ชิดกับองค์กรการศึกษา ในการเตรียมพร้อมผลิตบุคลากรด้านสื่อมวลชนเข้าสู่เส้นทางวิชาชีพด้วย
ทั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเยือนอินโดนีเซียแล้ว นางสาวนาตยากล่าวว่า สภาการฯ ก็จะต้องกลับมาหารือเพื่อเดินหน้าทำงานให้บรรลุตามเอ็มโอยูที่วางไว้ โดยเฉพาะการตั้งคณะทำงานร่วม 2 ฝ่าย มีการกำหนด Action Plan ที่มีการกำหนดรายละเอียดของกิจกรรม และกำหนดเวลาที่ชัดเจน ซึ่งทางอินโดนีเซียได้แสดงท่าทีที่กระตือรือล้นอย่างมาก จากการที่ได้มีการนำเสนอการแลกเปลี่ยนการจัดการอบรมสื่อมลวชน ในช่วงเดือนเมษายนปีหน้า ซึ่งจะเป็นปีที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย และคาดว่าจะมีการเลือกตั้งในประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นงานที่คณะทำงานร่วมจะต้องเดินหน้าต่อไป