กรรมการสภาการหนังสือพิมพ์ฯ เลือก “ชวรงค์” จากไทยรัฐ เป็นประธานสมัยที่ 9 พร้อมเร่งสานงานเก่า สร้างงานใหม่ ผลักดันงานส่งเสริมและพัฒนากิจการหนังสือพิมพ์ทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นรับมือความเปลี่ยนแปลงทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2561 ได้มีการประชุมคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เพื่อเลือกประธาน รองประธาน เหรัญญิก และเลขาธิการ โดยที่ประชุมมีมติเลือก นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี กรรมการประเภทที่ 1 (ผู้ก่อตั้ง) จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เป็นประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติอีกสมัย ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์
จากนั้น นายชวรงค์ ได้เสนอชื่อ นางสาวนาตยา เชษฐโชติรส จากเครือบางกอกโพสต์ เป็นรองประธานคนที่ 1 นายวีรศักดิ์ โชติวานิช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย เป็นรองประธานคนที่ 2 นายชาย ปถะคามินทร์ จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เป็นเลขาธิการ นางสาวนิภาวรรณ แก้วรากมุกข์ จากเครือเนชั่น เป็นรองเลขาธิการคนที่ 1 นายภูวสิษฏ์ สุขใส จากหนังสือพิมพ์ภาคใต้โฟกัส จ.สงขลา เป็นรองเลขาธิการคนที่ 2 และนางสาวชุติมณฑน์ ศรีขำ จากบ้านเมืองออนไลน์ เป็นเหรัญญิก โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบ
นายชวรงค์ กล่าวถึงสิ่งที่สภาการหนังสือพิมพ์ฯ ต้องดำเนินการต่อไปคือ 1) การสานต่องานเก่า ได้แก่ การผลักดันการทำหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในองค์กรสมาชิก หรือ Media Ombudsman ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ และการออกแนวปฏิบัติด้านต่างๆ พร้อมเผยแพร่และขอความร่วมมือองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันให้บังคับใช้ได้จริง นอกจากนี้ ก็คือการทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาควิชาการและองค์กรผู้บริโภคต่างๆ ในการเฝ้าระวังการละเมิดจริยธรรมขององค์กรสมาชิก เพื่อให้เกิดความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ในการลดปัญหาการละเมิดจริยธรรม
2) งานผลักดันการยกร่างกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปสื่อเพื่อรักษาไว้ซึ่งหลักการกำกับดูแลกันเองขององค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน โดยให้กฎหมายเป็นเพียงเครื่องมือในการส่งเสริมมาตรการกำกับดูแลสื่อให้อยู่ในกรอบของจริยธรรมวิชาชีพ มีผลบังคับใช้ในทางปฏิบัติและมีความทั่วถึง และไม่ถูกแทรกแซงโดยอำนาจรัฐใดๆ อีกทั้งยังสนับสนุนการปฏิรูปสื่อสารมวลชนในภาพรวมเพื่อให้สื่อมวลชนยังคงเป็นวิชาชีพและธุรกิจที่สร้างความเป็นธรรม และทำหน้าที่เป็นยามระวังภัยให้สังคมด้วยมาตรฐานทางวิชาชีพที่สูง และยึดมั่นในหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
และ 3) การผลักดันงานด้านส่งเสริมและพัฒนากิจการหนังสือพิมพ์ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่นให้สามารถรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานทางวิชาชีพ โดยผ่านกระบวนการให้การศึกษาอบรม ทั้งทางด้านวิชาชีพ ด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และด้านการพัฒนาธุรกิจให้สามารถตอบสนองความเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม โดยมีเนื้อหา วิธีการนำเสนอ และช่องทางการนำเสนอที่สอดคล้องกับรสนิยมของผู้บริโภคและประโยชน์สาธารณะ ตลอดจนถึงการให้ความร่วมมือกับองค์กรสมาชิกในการผลักดันให้เกิดมาตรการต่างๆ เพื่อให้กิจการหนังสือพิมพ์สามารถเป็นที่พึ่งของสังคมได้ในระยะยาวและตลอดไป