คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในองค์กร ภาคอีสาน จัดประชุมประจำปี เลือก “พิสิษฐ์” เป็นประธานฯคนแรก “ชวรงค์” ได้มาชี้แนะแนวทางดำเนินงานและตอบข้อข้องใจบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการฯ
เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2560 เวลา 09.00 น. ที่ห้องกรีนบี โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในองค์กร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Ombudsman) ได้จัดการประชุมประจำปี โดยมี นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เป็นประธานการประชุม ส่วนคณะกรรมการเข้าร่วมประชุมประกอบด้วย พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ กรรมการ เจ้าของ/บรรณาธิการ นสพ.ไทยเสรี จ.ขอนแก่น, นายกิตติศักดิ์ ชิณแสง กรรมการตัวแทนผู้ปฏิบัติงาน นสพ.อีสานบิซวีค จ.ขอนแก่น, ผศ.ดร.เสกสรร สายสีสด ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสื่อสารมวลชน มรภ.อุดรธานี และ นายปฏิวัติ เฉลิมชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งการประชุมครั้งนี้มี นายเสด็จ บุนนาค ผู้จัดการโครงการ นายสิทธิพร สาระพาณิชย์ อดีตประธานสภาทนายความจังหวัดขอนแก่น ในฐานะกรรมการจริยธรรม สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น, กรรมการบริหารสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น และสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมประชุมและสังเกตการณ์
ในการประชุมดังกล่าว ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้ชี้แจงเรื่อง ข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ.2559, ข้อบังคับสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ว่าด้วยวิธีพิจารณาเรื่องร้องเรียน พ.ศ. 2559 และแนวปฏิบัติสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ให้กับคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนฯ ได้รับทราบเพื่อเป็นแนวทางดำเนินงาน พร้อมตอบข้อซักถาม ที่สงสัยทั้งในส่วนของคณะกรรมการฯ และผู้สังเกตการณ์
นายชวรงค์ กล่าวเปิดการประชุมว่า หน้าที่สำคัญของคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในองค์กรคือการรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ได้รับผลกระทบจากการเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์สมาชิกในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่วันนี้มีทั้งหมด 7 ฉบับ นอกจากนี้ยังสามารถหยิบยกปัญหาด้านจริยธรรมของหนังสือพิมพ์สมาชิก ขึ้นมาพิจารณาในคณะกรรมการได้ ส่วนที่มีคำถามว่า ถ้าไม่ได้เป็นสมาชิกเราจะตรวจสอบได้อย่างไรนั้น
ซึ่งเรื่องนี้นายชวรงค์ กล่าวว่า แม้เราจะเข้าไปตรวจสอบไม่ได้ แต่เราสามารถรวบรวมเรื่องที่อาจจะมีผู้ร้องเรียนผ่านมาทางเรา ส่งไปยังหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นได้ เพื่อให้เขาได้ชี้แจงให้ผู้ร้องเรียนทราบ แต่ในอนาคตหากมีสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติเกิดขึ้น การดำเนินการก็อาจจะใช้ระบบ 2 สภา ซึ่งถือว่าเป็นประเทศเดียวในโลก ที่จะใช้ระบบนี้ คือ หนังสือพิมพ์ที่เป็นสมาชิกสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ก็จะถูกกำกับดูแลโดยสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ตามแนวทางการกำกับดูแลกันเอง ส่วนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ก็จะถูกกำกับดูแลโดยสภาสื่อมวลชนแห่งชาติ ซึ่งอาจมีบทลงโทษทางอาญา
จากนั้นได้เข้าสู่ระเบียบวาระการเลือกประธานคณะกรรมการ โดยที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ ให้ พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ เป็นประธานกรรมการฯ โดยมี ผศ.ดร.เสกสรร สายสีสด เป็นรองประธาน และนายปฏิวัติ เฉลิมชาติ เป็นเลขานุการ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำหนดแผนการดำเนินงานในปีนี้ โดยจะมีการจัดสัมมนา จัดอบรมเพื่อให้หนังสือพิมพ์ทั้งที่เป็นสมาชิก และไม่เป็นสมาชิก เพื่อให้การดำเนินการของหนังสือพิมพ์ในส่วนภูมิภาคเป็นไปตามหลักจริยธรรมวิชาชีพ เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ให้กับสมาชิกในโอกาสต่อไป ส่วนรายละเอียดการดำเนินการนั้น คณะกรรมการฯ จะไปวางแผน และจัดการประชุมกันอีกครั้ง