สมาคมนักข่าวฯ ไม่ติดใจ นายกฯ สั่งแจ้งชื่อ ต้นสังกัดก่อนถาม แต่ 4 คำถามน้อยเกินจนอาจถูกมองลิดรอนสิทธิสื่อฯ เชื่อเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราว
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 นายมานพ ทิพย์โอสถ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ ในฐานะโฆษกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวฯ ประจำเดือนว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารได้หยิบยกประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้ปรับปรุงรูปแบบการถามคำถามนายกรัฐมนตรี โดยให้ถามเพียง 4 คำถาม พร้อมกับแจ้งชื่อ – นามสกุล และต้นสังกัดทุกครั้ง ขึ้นมาหารือ โดยที่ประชุมเห็นว่าการให้แจ้งชื่อ นามสกุล และต้นสังกัดเป็นธรรมเนียมปฏิบัติตามหลักสากล ซึ่งสมาคมนักข่าวฯ ไม่ติดใจในประเด็นดังกล่าว
“การกำหนดให้ถามคำถามเพียง 4 คำถามนั้น สมาคมนักข่าวฯ เห็นว่าน้อยเกินไป จนอาจถูกมองว่าเป็นการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชนในการตั้งคำถามในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินของผู้บริหารประเทศ” โฆษกสมาคมนักข่าวฯ กล่าว
นายมานพ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวฯ เชื่อว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเป็นปรากฏการณ์ช่วงสั้นๆ เท่านั้น เพราะการออกคำสั่งหรือสั่งให้มีแนวปฏิบัติเช่นนี้เป็นการฝืนธรรมชาติของผู้นำประเทศและสื่อมวลชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่มีการตั้งโพเดี้ยมสำหรับการแถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี การตั้งคำถามอาจมีได้มากกว่าที่สำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าไม่ควรที่จะกำหนดให้สื่อมวลชนส่งคำถามให้กับนายกรัฐมนตรีล่วงหน้า ทั้งนี้สมาคมนักข่าวฯ เห็นว่าเป็นสิทธิของนายกรัฐมนตรีที่จะตอบคำถามหรือไม่อย่างไรก็ได้ และเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเคยเกิดขึ้นกับผู้นำประเทศมาแล้วหลายคน และทุกอย่างก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ